G+

วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555

Google เริ่มปรับเปลี่ยนการค้นหารูปแบบใหม่!!

หลายคนคิดว่า Google พยายามจะอ่านความคิดความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลก โดยเฉพาะ "คำตอบ" ที่ว่าเรากำลังต้องการค้นหาอะไร? ล่าสุดทางบริษัทกำลังปรับใหญ่สำหรับกลไกการค้นหาที่ลึกซึ้งกว่าเดิม และให้ผลตอบที่โดนใจผู้บริโภคมากกว่าการให้ผลลัพธ์แค่ "Link"

Amit Singhal วิศวกรลูกหม้อของ Google กล่าวว่า ทางบริษัทต้องการให้ผู้ใช้ได้ผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้มากกว่านี้ โดยการใช้กลไกที่เรียกว่า Semantic Search ซึ่งมันจะพยายามจัดลำดับสิ่งที่มีความหมายกับผู้ใช้จริงๆ ทันทีที่คุณกำลังพิมพ์คีย์เวิร์ดเข้าไปในช่องค้น Singhal ยังบอกอีกด้วยว่า มันคือเสิร์ชต่อไปหลังจากที่เราใช้กลไกการค้นหาแบบเดิมๆ มาหลายปีแล้ว โดยประเด็นของเสิร์ชยุคใหม่ที่วิศวกรของ Google พูดถึง และน่าสนใจมากๆ ก็คือ การทำให้ Google สามารถให้คำตอบกับผู้ใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องออกไปจากหน้าผลลัพธ์การค้น เหตุผลนอกจากความต้องการให้บริการเสิร์ชที่เยี่ยมยอดกับผู้ใช้ทั่วโลกแล้ว ไอเดียเบื้องหลังนี้ก็คือ ยิ่งผู้ใช้ Google ใช้เวลากับบริการเสิร์ชนานเท่าไร โอกาสทำรายได้จากโฆษณาของบริษัทก็จะเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น


ตัวอย่างเช่น ตอนนี้ การค้นหาว่า นักร้อง หรือวงดนตรีใดที่กำลังจะมีคอนเสิร์ทวันไหน แทนที่ Google จะให้ลิงค์ของคำตอบกับผู้ค้น Google จะแสดงออปชัน "personal results" (ผลลลัพธ์การค้นเฉพาะบุคคล) จากเพื่อนๆ ที่อยู่ในบริการ circles บน Google+ ด้วย เช่นเดียวกับผลลัพธ์การค้นปกติ ซึ่งที่ส่วนท้ายของหน้าค้นหา ผู้ใช้ยังสามารถเห็นรายการสำหรับการค้นหาที่เฉพาะเจาะจงลงไป ซึ่งอาจจะตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้กำลังค้นหาอยู่ก็ได้ "ทุกวันนี้ เรา (Google) กำลังปรับปรุงความสามารถตลอดเวลา เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบที่ดีที่สุด และเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ สำหรับทุกคำถามที่ป้อนเข้าไปในช่องค้น ในการทำสิ่งนี้ เราได้แปลงข้อมูลดิบเข้าไปเป็นฐานความรู้สำหรับผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก แต่ความสามารถของเราในการที่จะส่งมอบประสบการณ์นี้ได้คือ ฟังก์ชันการทำงานของ Google จะต้องเข้าใจคำถามของคุณ และเข้าใจข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนโลกใบนี้ ซึ่งตอนนี้ ความเข้าใจของเราสำหรับการหาคำตอบในเรื่องดังกล่าวเริ่มปะติดปะต่อเป็นรูปร่างที่ชัดเจนขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง"


วิศวกรของ Google ยังเปิดเผยอีกด้วยว่า ในช่วงสองปีที่ผ่านมา Google ได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ (entities) ที่เกี่ยวของกับคน สถานที่ และสิ่งของ หลายร้อยล้านรายกร เข้าไปในซีแมนทิคเสิร์ช ซึ่งมันสามารถดึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหาร สถานที่ และผลิตภัณฑ์ให้แสดงขึ้นมา เมื่อคุณค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งโดยเฉพาะ โดย Singhal ได้พูดถึง Freebase ฐานข้อมูลที่ Google ซื้อมาเมื่อปี 2010 ที่ในขณะนั้น Freebase ได้รวบรวมเอ็นทิตี และคุณสมบัติที่เชื่อมโยงกันไว้มากกว่า 12 ล้านรายการ จนล่าสุดตอนนี้ Freebase มีฐานข้อมูลของสิ่งต่างๆ ที่เชื่อมโยงกันมากกว่า 200 ล้านรายการแล้ว

การใช้ "คีย์เวิร์ด" ในการค้นหาเพียงอย่างเดียวได้หมดยุคไปแล้ว Singhal ระบุในข้อความที่โพสต์ว่า ขณะนี้การเสิร์ชด้วยกลไกของ Semantic ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และยังต้องดำเนินต่อไป โดยขอให้ผู้ใช้ใจเย็นๆ ซึ่งเขาจะเปิดเผยเรื่องนี้อีกครั้ง (แน่นอนว่า หากมีการอัพเดทในเรื่องนี้อย่างไรจะรีบหยิบมานำเสนอให้ทุกท่านได้ทราบทันที) เมื่อเห็นภาพการทำงานที่ชัดกว่านี้ ปัจจุบัน Google มีส่วนแบ่งตลาดเสิร์ชอยู่ที่ 75% และทำรายได้ให้บริษัทสูงถึงสามหมื่นเจ็ดพันล้านเหรียญฯ

เครดิต : Arip